แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความสำเร็จ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ความสำเร็จ แสดงบทความทั้งหมด

วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ความสุขกับความสำเร็จ


ระหว่าง ความสุขกับความสำเร็จ คุณจะเลือกอะไร
.
ขอให้ตอบในใจก่อน แล้วค่อยเลื่อนไปดูต่อนะครับ
.
.
.
.
.
ถ้าคุณเลือกความสุข คุณเลือกผิด!
งั้น เลือกความสำเร็จละกัน ก็ผิดอีก!!
เอ้าา งั้นให้เลือกอะไรล่ะงั้น!?
.
บอกตรงๆเลย คำถามนี้หรือคนที่ถามคำถามนี้งี่เง่าครับ เพราะจริงๆแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเลือกเลย
เรื่องจริงก็คือ ทุกคนมีสิทธิที่จะมีความสุขและความสำเร็จไปพร้อมๆกันทั้งสองอย่าง โดยที่ไม่จำเป็นต้องเลือกอะไร
.
และจริงๆของจริงๆคือ คุณไม่จำเป็นต้องมีแค่ 2 อย่างนี้ คุณสามารถมีทั้งความสุข ความสำเร็จ ความร่ำรวย หน้าที่การงานก้าวหน้า มีชื่อเสียง มีคนนับหน้าถือตา มีครอบครัวที่อบอุ่น และมีสุขภาพที่แข็งแรงไปพร้อมๆกันได้หมด
.
บางทีเรามักจะเจอคำถามที่งี่เง่า ให้เลือกทางใดทางหนึ่งเช่น
- ระหว่างเงินกับความสุข จะเลือกอะไร
- ระหว่างงานกับครอบครัว จะเลือกอะไร
- ระหว่างงานกับสุขภาพ จะเลือกอะไร
โอย มีแนวๆนี้อีกเพียบ!!
.
บอกเลยว่าคุณไม่จำเป็นต้องเลือกครับ! เพราะทุกอย่างที่ว่ามา เป็นสิ่งที่คุณสามารถสร้างและมีทุกอย่างไปพร้อมๆกันได้ นี่ไม่ใช่การไปเที่ยวปีใหม่ ที่ถ้าคุณเลือกไปภูเขาแล้วจะอดไปทะเล คุณถึงต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
.
แต่นี่คือชีวิตที่คุณเป็นเจ้าของ และมีสิทธิ 100% ที่จะเลือกและสร้างชีวิตคุณในแบบที่คุณต้องการ
.
ฟังดูเว่อร์ ขายฝัน ขายตรงมากใช่มะ??
แต่นี่เรื่องจริงครับ หนังสือจิตวิทยานับพันเล่มทุกเล่มบอกตรงกันแบบนี้
.
กลับมาที่คำถามของเรา "ระหว่าง ความสุขกับความสำเร็จ คุณจะเลือกอะไร" คำตอบที่ถูกต้องคือ ชีวิตคุณต้องมีทั้ง 2 อย่างนี้!
.
แต่บางคนมักจะเข้าใจผิดคอนเซปนี้นิดหน่อย เพราะคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าจะต้องมีความสำเร็จก่อนแล้วค่อยมีความสุข
.
ต้องทำงานๆๆๆให้เลื่อนตำแหน่ง หรือธุรกิจขยายเติบโต มีตังค์เยอะๆก่อน แล้วจะมีความสุข บางคนทำงานเก็บตังค์อย่างเดียวไม่ใช้เลย รอมีความสุขในบั้นปลาย
.
จริงๆ เข้าใจงี้ไม่ผิดครับ แต่ออกแนวเสียดายมากกว่า เพราะความสุขไม่ใช่เรื่องของ Future ครับ แต่ความสุขเป็นเรื่องของ Now
.
Albert Schweizer นักเขียนชาวเยอรมันบอกว่า "Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. If you love what you are doing, you will be successful."
.
ความสำเร็จบางทีไม่ได้นำพาความสุขเสมอไป แต่ความสุขต่างหากล่ะ ที่จะนำพาความสำเร็จ ถ้าคุณรักสิ่งที่คุณทำ รักทุกวันที่คุณใช้ชีวิต รักสิ่งคุณเป็นและชอบสิ่งที่คุณมี คุณจะกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ
.
ชีวิตเกิดมาครั้งเดียว ชาติหน้ามีจริงรึเปล่าไม่รู้ แต่ชาตินี้มีจริงแน่ๆ ความลับก็คือ คุณสามารถใช้ชีวิตเหมือนขึ้นสวรรค์ได้เลยในชาตินี้ โดยไม่ต้องรอและลุ้นชาติหน้า!
.
มีความสุขกันมากๆทุกวันนะครับทุกคน!
.
Happiness is a choice, not a result. Nothing will make you happy until you choose to be happy!!

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

คนที่ประสบความสำเร็จกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ

คนที่ประสบความสำเร็จกับคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ

7 อุปนิสัย ของผู้ประสบความสำเร็จ


7 Habits of highly effective

1. ต้องเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน (Be Proactive)
เวลาที่เราต้องการอะไรหรือต้องการจะเริ่มอะไรสักอย่างจะต้องมีตัวกระตุ้น และตัวกระตุ้นจะทำให้เกิดการตอบสนองดังนั้นหากเราเป็นผู้เริ่มต้นก่อนหรือ เป้นตัวกระตุ้นการตอบสนองจะตามมา

2. เริ่มต้นจุดหุ่งหมายในใจ(Begin with the End in Mind)
การที่เราจะเริ่มต้น ก่อนอื่นมันมักจะมาจากสิ่งที่เราคิดในใจ หลักของ “เริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ” นั่นคือการทำสองครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นในจิตใจ และครั้งที่สอง คือการทำให้สิ่งที่เราคิดเป็นจริง แต่การที่เราจะทุ่มแค่แรงใจอย่างเดียวก็ไม่สามารถเกิดประสิทธิผลได้มันอยู่ กับว่าเราเทความหมายไปในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ และต้องมีศูนย์รวมในตนเอง และเป็นการที่เราดำเนินชีวิตและตัดสินใจได้จากฐานความชัดเจนในเป้าหมายชีวิต ของเรา สามารถปฏิเสธอย่างไมรู้สึกผิดหากสิ่งนั้นไม่ตรงเป้าประสงค์หลักของเรา

3. ทำตามลำดับความสำคัญ (Put First Things First)
นิสัยที่ 3 เป็นเหมือนภาคปฏิบัติของ นิสัยที่ 1 และ 2 ซึ่งทั้ง การจัดการบริหารเวลา, รู้จักปฏิเสธ, ตารางเวลา เพื่อให้เราทำสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก่อน วิธีง่ายๆ ที่จะลองทำคือ เขียนรายชื่อสิ่งที่เราอยากทำ และเราควรทำ ทำสัญญาลักษณ์แบ่งมันออกเป็น 3 ระดับคือ
สำคัญมากเร่งด่วน
สำคัญมากแต่ไม่เร่งด่วน
ไม่สำคัญมากแต่เร่งด่วน
และทำตามลำดับ

4. คิดแบบ ชนะ/ชนะ (Think Win-Win)
จริงๆ แล้วมนุษย์มีกรอบความคิด 6 แบบที่กระทำต่อกัน หนึ่งในนั้นคือการคิดแบบชนะ/ชนะ คือไม่มีผู้แพ้ เป็นข้อตกลงหรือการแก้ไขปัญหาต่างๆ เป็นไปเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย แต่อย่างไรเสีย ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่ละสถานการณ์ว่าควรใช้แบบอื่นหรือไม่ หากไม่สามารถหาข้อตกลงแบบ คุณก็ชนะ ฉันก็ชนะได้ ก็ตกลงว่า “จะไม่ตกลง” ณ ขณะนี้เพื่อลดสถานการณ์ที่มีผู้หนึ่งผู้ใดต้องแพ้ จุดตั้งต้นคือต้องเห็นคุณค่าในตัวเอง และเห็นความ Proactive ที่มีค่าของผู้อื่น (I’m Ok, You’re Ok.)

5. เข้าใจคนอื่นก่อนจะให้คนอื่นเข้าใจเรา (Seek First to Understand, Then to be Understood.)
ก่อนบอกความต้องการหรือสิ่งที่เราคิดแล้วอยากให้ผู้อื่นยอมรับ เราต้องให้ความสำคัญและเข้าใจมุมมองของผู้อื่นต่อเรื่องนั้นๆ อย่างลึกซึ้งก่อน และลดการปะทะกัน

6. ประสานพลังงานสร้างสิ่งใหม่ (Synergize)
เกิดจากการยอมรับในคุณค่าของตนเอง และเข้าใจในความแตกต่างที่ผู้อื่นมีมุมมอง ลดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างไม่สร้างสรรค์ ซึ่งปิดกั้นความคิดดีๆ ของกลุ่มคนที่อยู่ด้วยกัน มีเพียงความพยามในการเข้าใจในสิ่งที่ตอนแรกเหมือนจะไม่เห็นด้วยเท่านั้น

7. ลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ (Sharpen the saw)
ที่กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ข้อ 1 – 6 จำนำไปใช้ในชีวิตจริงให้ได้ประสิทธิผลเราต้องมั่นฝึกฝนอุปนิสัยต่างๆ เหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ
“หมั่นลับคมเลื่อยไว้ ยามเมื่อถึงเวลา..จะได้พร้อมใช้”

Credit By  : Stephen Covey
http://ecepost.com/viewtopic.php?id=702012001